เริ่มเข้าเรียนชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนนานาชาติใหม่แห่งประเทศไทย (New International School of Thailand - NIST) จนอายุ 8 ปี ทั้งครอบครัวจึงได้ย้ายไปอาศัยอยู่ฮ่องกง ขณะที่อาศัยอยู่ฮ่องกงได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนควอร์รีเบย์ (Quarry Bay School) ตั้งแต่เกรด 4-6 และเกรด 7 ที่โรงเรียนเซาท์ไอส์แลนด์ (South Island School) และกลับมาศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีสุดท้ายที่โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ (Harrow International School) ประเทศไทยขณะอายุ 16 ปี รวมเป็นระยะเวลา 8 ปีที่อาศัยอยู่ฮ่องกง จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ สาขาอังกฤษธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ[13] และศึกษาต่อระดับปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ[14][15]
เจมส์ มาร์ เข้าสู่วงการบันเทิง เพราะศุภชัย ศรีวิจิตรไปพบที่ฮ่องกงขณะกำลังอยู่มัธยมปลาย และชวนมาเป็นนักแสดงในสังกัด โดยเจมส์ตอบตกลงเพราะมองว่าเป็นโอกาสอันดีประกอบกับต้องการที่จะกลับมาเล่าเรียนในไทย[10] เบื้องต้นศุภชัยเคยส่งเจมส์ไปประกวดเดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวปีที่ 7 เพื่อหาประสบการณ์ แต่สุดที่รอบตัวแทนภาคกลาง[7][16] ช่วงเริ่มแรกได้งานถ่ายแบบและเดินแบบ ภายหลังจึงได้แสดงละครชุด "สุภาพบุรุษจุฑาเทพ" เป็นชุดแรกและทำให้มีชื่อเสียง แม้จะถูกวิจารณ์จากผู้ชมว่าเจมส์ไม่เหมาะควรกับบทดังกล่าว[17] โดยเฉพาะรูปร่างหน้าตาที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ที่ต่างไปจากบทประพันธ์และนักแสดงคนอื่นที่เล่นเป็นพี่น้อง[18] จนเจ้าตัวก็คิดว่าเขาเป็น "จุดอ่อน" ของละครชุดดังกล่าวด้วย[19] แต่หลังจบละครได้เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าจำนวนมาก จนได้ฉายาว่าเป็น "เจ้าพ่อพรีเซ็นเตอร์"[20][21][22] ขณะที่นิตยสารสยามดารา จัดให้เจมส์เป็น "1 ใน 10 พระเอกที่น่าจับตามองในปี 2556"[23]
ในปี พ.ศ. 2558 เขาแสดงละครย้อนยุคเรื่อง ข้าบดินทร์ ซึ่งก่อนเข้าฉาย เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะกับบทเช่นเดียวกับภีรนีย์ คงไทย นักแสดงอีกคนในเรื่องซึ่งเป็นลูกครึ่งเช่นกัน ที่รูปลักษณ์ต่างออกไปจากบทประพันธ์[24][25] แต่หลังการออกอากาศจึงได้รับคำชื่นชม[26]